กฏหมายเกี่ยวกับรถยกฟลอคลิฟท์

กฏหมายเกี่ยวกับรถยกฟลอคลิฟท์

 

กฏหมายเกี่ยวกับรถยก

หลักสำคัญ 3ประการที่ต้องปฏิบัติ  คือ

  • รถยกต้องอยู่ในสภาพที่ดี  พร้อมใช้งานและได้รับการบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง
  • ผู้ขับขี่รถยกจะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมมีใบอนุญาตขับขี่และได้รับการมอบหมายให้ขับขี่โดยเฉพาะเท่านั้น
  • ผู้ขับขี่ต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลาที่จะหลีกเลี่ยงการเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับตนเองและเพื่อนร่วมงาน 


ผู้ขับขี่รถยก

  • ผู้ขับขี่รถยกจะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ ซึ่งผ่านการฝึกอบรมมีใบอนุญาตขับขี่โดยเฉพาะเท่านั้น 
  • ต้องแน่ใจว่ารถยกได้ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่เหมาะสม 
  • ก่อนและหลังการยกงาขึ้น/ลง ต้องให้สัญญาณและเตือนผู้อยู่ในบริเวณใกล้เคียง 
  • ห้ามยืน เดิน หรือทำงานใต้งารถยกที่กำลังทำงาน 
  • บรรทุกวัสดุตามพิกัดที่กำหนด 
  • หากมีเหตุขัดข้องระหว่างการทำงาน ห้ามเข้าใต้งา  หรือพยายามที่จะทำการซ่อมแซมหรือกระทำการใด ๆ ทั้งสิ้น 


ข้อปฏิบัติในการขับขี่ 

  • ก่อนเคลื่อนรถยกออกไป ต้องสำรวจว่าบริเวณใกล้เคียงมีสิ่งกีดขวางหรือไม่ 
  • ตรวจสอบรถยกทุกวัน หากมีจุดผิดปกติให้รายงานผู้รับผิดชอบ ห้ามใช้รถยกที่มีลักษณะไม่ปลอดภัย 
  • รีบรายงานอุบัติเหตุ หรือเหตุผิดปกติให้ผู้รับผิดชอบทราบทันทีเพื่อสามารถตรวจสอบสาเหตุได้ทันที 
  • ตรวจสอบความเรียบร้อยของแบตเตอรี่ ถังน้ำมันและฝาปิด ก่อนสตาร์ทเครื่อง หรือเริ่มทำงาน 
  • ควบคุมความเร็วรถให้สามารถที่จะหยุดได้กะทันหัน 
  • บีบแตรให้สัญญาณขณะขับรถในมุมอับ 
  • สอดงาใต้วัสดุที่บรรทุกให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะขับเครื่องจะต้องให้วัสดุพิงพนักพิงวัสดุ และกางงาออกให้พอดีกับน้ำหนัก (บรรทุก) วัสดุ 
  • ห้ามใช้ชั้นวางที่ชำรุดในการยก 
  • การเคลื่อนรถออกทุกครั้งต้องยกงาสูงกว่าพื้นประมาณ 6 – 8 นิ้ว  เสมอ 
  • ขณะรถวิ่ง ให้ยกวัสดุในระดับต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
  • ขับรถให้ความเร็วรถพอเหมาะกับสภาพพื้นผิวถนน น้ำหนักบรรทุก และสภาพของบริเวณทีทำงาน 
  • หากวัสดุที่บรรทุกสูงจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า ให้ขับรถถอยหลังไปแทน 
  • ห้ามขนย้ายวัสดุที่จัดตั้งไม่เป็นระเบียบ 
  • ตรวจสอบสิ่งกีดขวางเหนือศรีษะทุกครั้งที่จะขนย้ายวัสดุ 
  • ห้ามออกรถเร็ว หยุดกระทันหัน หรือเลี้ยวฉับพลัน โดยเฉพาะในขณะที่กำลังบรรทุกวัสดุ 
  • เว้นระยะห่างจากยานพาหนะคันอื่นประมาณ 3 ช่วงคันรถ(นับจากปลายงายกเข้ามา) 
  • ห้ามแซงซึ่งกันและกันในบริเวณที่อันตราย เช่น  มุมอับ ทางแยก ฯ 
  • ต้องคำนึงถึงความสูง  ความกว้างของรถเสมอ  และระวังคนเนเท้าโผล่ออกมาจากมุมอับ 
  • บีบแตรให้สัญญาณและขับรถช้า ๆ เมื่อเข้าใกล้ทางเดินประตู ทางเข้า และรถยกคันอื่น 
  • ระมัดระวังเมื่อเข้าใกล้ทางเดินเท้า หลีกเลี่ยงการขับรถยกเข้าใกล้คนยืนอยู่ริมรั้วหรือริมถนน 
  • ลดความเร็วลงเมื่อเข้าใกล้บริเวณมุมอับที่จะมองไม่ถนัด เช่น มุมประตู หรือขับรถชิดซ้ายไว้จนกว่าจะแน่ใจ 
  • ห้ามขับแซงรถยกคันอื่นที่ไปทางเดียวกันในบริเวณทางแยก จุดอับ หรือบริเวณที่อันตราย 
  • ห้ามขับรถทับสิ่งของที่ตกอยู่บนพื้น 
  • รู้ตำแหน่งของล้อรถยกกับปลายงายกหรือสุดขอบของวัสดุที่จะยกให้ระมัดระวังในขณะกระดกปลายงาก่อนยก 
  • ห้ามจับพวงมาลัย หรือขับขี่ขณะมือหรือถุงมือเปื้อนน้ำมันหรือลื่น 
  • ตีเส้นสีเหลืองแสดงช่องเดินรถและบริเวณที่ทำงาน 
  • ติดตั้งกระจก และหรือ ป้ายสัญญาณหยุด ในบริเวณประตู ทางเดิน หรือสถานที่ทำงานที่เป็นจุดอันตราย บีบแตรให้  สัญญาณทุกครั้งที่เข้าใกล้บริเวณดังกล่าว 
  • ปลดเกียร์ว่าง ใส่เบรค ลดงาให้อยู่ในระดับต่ำสุดและดับเครื่องยนต์ทุกครั้งที่จอดหลังใช้งาน 
  • ห้ามผู้โดยสารบนรถ 
  • ดูกระจกเงาสะท้อนมุมถนน เมื่อถึงบริเวณถนนหักมุมและพร้อมที่จะหยุดหากมีเรื่องกระทันหัน และบีบแตรให้ สัญญาณทุกครั้ง 


การเติมน้ำมันเชื้อเพลิง

  • ดับเครื่องก่อนเติมน้ำมันในบริเวณที่กำหนดทุกครั้ง
  • ตรวจการปิดฝาถังน้ำมันให้เรียบร้อยหลังเติมน้ำมัน  และทำความสะอาดเมื่อน้ำมันหกก่อนการติดเครื่อง
  • ภาชนะบรรจุน้ำมันต้องติดฉลากให้ชัดเจน
  • อุปกรณ์ดับเพลิงต้องติดไว้ที่บริเวณที่เติมน้ำมันและเตรียมพร้อมเสมอที่จะนำมาใช้งาน

Visitors: 433,698