อุบัติเหตุกับเด็กนักเรียน

อีกแล้ว! ครูลืมเด็ก 7 ขวบไว้บนรถ เจออีกทีเสียชีวิตแล้ว
ลืมเด็กอีกแล้ว! ครูลืมเด็ก 7 ขวบ ไว้บนรถรับส่งนักเรียน เจออีกทีเสียชีวิตแล้ว แม่ไม่เชื่อลูกถูกลืมทิ้งบนรถ
อีกแล้ว! ครูลืมเด็ก 7 ขวบไว้บนรถ เจออีกทีเสียชีวิตแล้ว
 

อีจัน

 

เผยแพร่เมื่อ : 
2 นาทีในการอ่าน
 

เกิดเหตุสลด กับรถตู้รับส่งเด็กนักเรียนอีกแล้ว

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 ส.ค. 65) เวลาประมาณ 17.00 น. พ.ต.ต.ประเสริฐ กุลบุตรดี สว.(สอบสวน) สภ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่า มีเด็กนักเรียนเสียชีวิตอยู่ภายในรถตู้รับ-ส่ง นักเรียน ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี จึงได้รีบเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับแพทย์เวรโรงพยาบาลพานทอง และหน่วยกู้ภัยว่างอุทยานพานทอง

 

ในที่เกิดเหตุพบรถตู้รับส่งนักเรียนเบอร์ 3 ยี่ห้อโตโยต้า จอดอยู่บริเวณเบาะหลังรถตู้คนขับ พบร่างของเด็กหญิงเขมนิจ ทองอยู่หรือน้องจีฮุน อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.2/2 นอนเสียชีวิตอยู่ภายในรถ สภาพคว่ำหน้า มีเลือกออกทางปาก ตัวซีด จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบกระเป๋าเป้สะพายสีดำ และแก้วน้ำวางอยู่

 
 

จากการสอบถามจากคุณครู เบื้อต้นให้ข้อมูลว่า เมื่อเช้าเมื่อขับรถมาจอดเพื่อให้เด็กลงกันที่โรงเรียน เมื่อเห็นว่าเด็กลงหมดแล้ว ก็ขยับรถมาจอดที่โรงจอดรถ เพื่อเตรียมที่จะรับเด็กไปส่งที่บ้านในช่วงเย็น พอเวลาประมาณ 16.00 น. ได้เตรียมที่จะเอารถมารับเด็กเพื่อที่จะไปส่งที่บ้านพบว่าน้องจีฮุนนอนอยู่ จากนั้นได้ทำการเรียกน้องโดยการจับขาแต่น้องไม่มีการตอบรับ ตอนนั้นยอมรับตกใจจนทำอะไรไม่ถูก และก็ได้จับขาน้องแล้วเรียกอีกครั้งแต่ก็ไม่มีการตอบรับหรือขยับตัว จึงรีบไปแจ้งครูคนขับรถและครูคนอื่นๆ ให้มาช่วยตรวจสอบพบว่าน้องไม่หายใจแล้ว

 

ทางด้านของนางสาวเมทิกา โกศลปลั่งศรี อายุ 31ปี แม่ของน้องจีฮุนและนายไทยอนันต์ ทองอยู่ อายุ 28 ปี พ่อของน้องจีฮุน ได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.พานทอง เพื่อเป็นหลักฐานเหตุประมาททำให้ลูกของตนต้องมาเสียชีวิต เพราะความไม่รอบคอบของครู แม่ของน้องจีฮุนได้เปิดเผยว่า วันนี้ช่วงเย็นมีครูมาหาที่บ้าน มาด้วยกัน 3 คน มีครูประจำชั้นครูขับรถรับส่งและครูพี่เลี้ยงที่นั่งมากับเด็กๆบนรถ เมื่อมาถึงบ้านก็อ้ำอึ้งไม่พูดอะไร แต่ถามกับแม่น้องว่าน้องมีโรคประจำตัวอะไรไหม เพราะมันมีเหตุที่ไม่อยากจะให้เกิด

 

แม่ก็รีบถามกลับไป เพราะกลัวว่าจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับลูกเรา กลัวว่าลูกจะโดนทำไม่ดีหรือถูกข่มขืน แต่มีคำตอบที่ไม่ได้คาดคิดเลย ว่าครูจะพูดว่าลูกเราไม่หายใจแล้ว ตอนนั้นแค่ได้ยินเราก็ช็อกแล้ว ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ถามครูไปว่าเพราะอะไร กว่าจะได้คำตอบก็เค้นอยู่นาน อีกอย่างตนคิดว่าลูกตนไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ แล้ว อยู่ตั้ง ป.2 ตัวโตขนาดนั้นครูไม่เห็นเหรอว่าเด็กไม่ได้ลงจากรถ ตนติดใจการเสียชีวิตของลูกสาวตนเพราะตนกลัวว่าไม่ใช่เหตุการณ์เสียชีวิตแบบขาดอากาศหายใจ แต่กลัวเป็นการถูกทำร้ายและทำอะไรไม่ดี แล้วอำพรางศพหรือเปล่าที่ตนสงสัยตนไม่อยากให้ลูกตนต้องมาตายฟรี

 

ยืนยันว่าจะสู้เรื่องนี้ต่ออย่างเต็มที่ เพราะที่ผ่านมาเราก็ยอมจ่ายค่าเทอมแพงๆ จ่ายค่ารถรับส่งลูก เพื่ออยากจะให้ลูกได้ไปเรียนแบบสบายๆ ได้เรียนที่ดีๆ ยืนยันว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด และจะหาความยุติธรรมมาให้ลูกเราจนได้ เพราะเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเรา

ทางด้านตำรวจจะได้ส่งศพของน้องจีฮุน ไปตรวจผ่าชันสูตรพลิกศพที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตของน้องจีฮุน และเรียกครูที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

เด็ก 7 ขวบ ติดใน"รถโรงเรียน" จนตาย "โกศลวัฒน์" ชี้คดีนี้มีคนผิด โทษหนัก

โกศลวัฒน์" ชี้ คดีลืมเด็กวัย 7 ขวบ ในรถโรงเรียนจนตาย อ่าปล่อยให้ครอบครัวเด็กสูญเสียฝ่ายเดียว คนขับและครูต้องรับโทษจากเหตุการณ์เด็กนักเรียนวัย 7ขวบ เสียชีวิตภายในรถตู้รับ-ส่งของโรงเรียน ชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 10 ต.พานทอง อ.พานทอง จ.ชลบุรี


วันนี้ 31 สิงหาคม 65 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลแขวงโพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า 

          ไม่ใช่แค่ครอบครัวเด็กที่สูญเสีย..แต่ครอบครัวของคนที่ประมาททำให้เด็กตาย ย่อมสูญเสียด้วย ครู..คนขับ..! มีหน้าที่ทำอะไร เด็กนักเรียนถูกทิ้งไว้ในรถจนถึงแก่ความตาย  

  ตำรวจจะต้องสอบสวนให้ได้ความจริงแล้วดำเนินคดี ข้อหา ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย…!     ชีวิตจึงประมาทไม่ได้เลยครับ

           มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีและปรับไม่เกิน 200,000 บาท และยังสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่ง ตามกฎหมายให้ชดใช้ได้อีกต่อไป 

ความประมาทจึงไม่ได้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวเด็กที่ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องเท่านั้น แต่ผู้ที่ทำประมาท จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งให้ชดใช้ ย่อมนำความเดือดร้อนกลับไปสู่ครอบครัวของตนเช่นกัน อาจติดคุก อาจโดนยึดบ้าน ที่อยู่อาศัย หรือทรัพย์สิน เพื่อชดใช้หนี้ในทางแพ่งต่อไปตามกฏหมาย

ชีวิต…. ประมาทไม่ได้… มีสติ… ดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง…!

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w


เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่


(https://awards.komchadluek.net/#)

สถิติพบเด็กเสียชีวิต ในรถตู้เฉลี่ยปีละ 1 คน

สถิติพบเด็กเสียชีวิต ในรถตู้เฉลี่ยปีละ 1 คน

 

กรณีเด็กหลับในรถ ก่อนที่จะถูกลืมทิ้งไว้ในรถตู้รับส่งนักเรียน และสุดท้ายเกิดความเศร้าสลด เพราะเด็กตัวน้อยๆ ได้เสียชีวิตจากไปนั้น นับว่าเป็นเรื่องซ้ำซากที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง และทุกวันนี้ยังพบปัญหาเดิม

ย้อนไปดูคดีต่างๆ  ที่เคยเกิดขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา พบว่า ตั้งแต่ปี 2555 มาจนถึงเคสล่าสุดนี้ มีเคสที่เคยเกิดขึ้นแล้ว อย่างน้อยอีก 4 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2555-2559 เป็นเด็กหญิง 2 คน เด็กชาย 2 คน อายุ 3 ขวบ 2 คน อายุ 4 ขวบ 2 คน เกิดขึ้นในหลายจังหวัด ทั้ง สมุทรปราการ นครศรีธรรมราช กาฬสินธุ์ และชลบุรีครั้งนี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นกรณี เด็กหลับในรถตู้ แต่คนขับมองไม่เห็น ส่วนใหญ่มีการขับรถไปจอดกลางแดด อย่างน้อย 6 ชั่วโมง และสุดท้าย เพื่อพบเด็ก เด็กก็ได้เสียชีวิตลงแล้ว

 

ขนส่งฯย้ำ! รถรับส่งนักเรียนทุกคันต้องได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนมีโทษหนัก

 สถิติพบเด็กเสียชีวิต ในรถตู้เฉลี่ยปีละ 1 คน

 

 

ทีมข่าวพูดคุยกับ นพ. ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) ระบุว่า ปี 2557-2563 ประเทศไทย เกิดเหตุลืมเด็กในรถรวมทั้งสิ้น 129 คน เฉลี่ยปีละ 18 คน ส่วนกรณีที่เด็กเสียชีวิตมากที่สุดเกิดขึ้นบนรถตู้หรือรถรับส่งนักเรียน รวม 5 คน หรือเฉลี่ยปีละ 1 คน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ขวบ

 

คุณหมอธนะพงศ์ มองว่า ปัจจัยหลัก คือ เราไม่ได้ให้ความสำคัญ กับการเช็กจำนวนนักเรียนทั้งตอนขึ้น และลงจากรถ เมื่อเด็กหลงอยู่ในรถ และหากรถตากแดดอยู่ ในเวลาเพียงประมาณครึ่งชั่วโมง อุณหภูมิในรถจะเพิ่มขึ้น 10 องศาเซลเซียส แต่หากนานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน อุณหภูมิในรถจะเพิ่มขึ้นอีก 40-50 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดฮีทสโตรก เด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด อวัยวะต่างๆ ล้มเหลว ไม่ว่าจะเป็นระบบหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด และการทำงานของไต จนทำให้เสียชีวิตในที่สุด

 

สำหรับแนวทางการป้องกันนายแพทย์ธนะพงศ์เน้นย้ำว่า หัวใจสำคัญที่สุดคือการเช็กจำนวนเด็กนักเรียนทั้งก่อนขึ้นรถและหลังลงจากรถ หรืออาจใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอย่างที่หลายๆ โรงเรียนทำ คือ ระบบสแกนบัตรนักเรียน เพื่อที่พ่อแม่ผู้ปกครองและคุณครูจะได้ทราบว่าเด็กเข้าโรงเรียนเรียบร้อยแล้วหรือยัง

 

คุณหมอธนะพงศ์ ยังได้ยกตัวอย่างระบบ Child Safety Alarm Act ของรถโรงเรียนในฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นระบบที่จะส่งสัญญาณเตือน ให้คนขับรถตรวจสอบว่ายังมีเด็กอยู่บนรถหรือไม่ หลังจากที่ส่งนักเรียนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งระบบนี้ก็เกิดขึ้นหลังจากที่ฟลอริดา มีรายงานเด็กเสียชีวิตเพราะติดอยู่ในรถที่อากาศร้อนหลายเคส

 สำหรับตัวเด็กเอง ควรที่จะมีการสอนให้เด็กรู้จักการบีบแตร เคาะเรียก หรือปลดล็อก เมื่อติดอยู่ในรถ โดยเฉพาะเด็กเล็กวัยประมาณ 2-3 ขวบ

 ส่วนกรณีเด็กหญิงวัย 7 ขวบที่เสียชีวิตบนรถที่จังหวัดชลบุรี นพ.ธนะพงศ์ตั้งข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่แล้วเหตุการณ์เด็กติดในรถ มักไม่ค่อยเกิดกับเด็กโต หรือวัยประถม เพราะเป็นวัยที่ช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว โดยส่วนตัวมองว่าอาจมีสาเหตุอื่นอย่างโรคประจำตัว หรือการทำร้ายร่างกาย หรือไม่ ซึ่งยังฟันธงไม่ได้ ต้องรอผลชันสูตร

 ด้าน นส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุ ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว เป็นโรงเรียนเอกชน ได้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า นักเรียนที่เสียชีวิต สาเหตุที่แท้จริงเป็นอย่างไร ที่ผ่านมากำชับเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษามาตลอด โดยเฉพาะรถรับส่งนักเรียน กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีมาตรการเรื่องระบบรถรับส่งนักเรียนทั้งของรัฐและเอกชนมาอย่างเข้มงวด 

 ส่วน ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ระบุว่า เรื่องนี้ หากเป็นการลืมเด็กในรถโรงเรียนจนเด็กเสียชีวิต ก็ถือเป็นความบกพร่อง ละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ ศธ.กำหนด  เช่น จะต้องมีคนขับ และครูที่ดูแลตามจำนวนที่กำหนด ก่อนปิดรถก็ต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่ามีเด็กค้างอยู่หรือไม่ ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น

  อัปเดตข่าวเศรษฐกิจ และการลงทุน ได้ที่ @PPTVOnline

 

เหยื่อถูกลืม.. บทเรียนซ้ำซาก อุทาหรณ์ลืมเด็กในรถ

 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 มีการแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์บน เฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ กรณีคนขับรถนักเรียนลืม ด.ช.ชนะชัย ชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ไว้ในรถ จนอาการของหนูน้อยรายนี้โคม่า เนื่องจากเด็กขาดอากาศหายใจนานกว่า 7-8 ชั่วโมง ล่าสุด (2 สิงหาคม 2560) น้องกาก้า ได้เสียชีวิตลงแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก..

 

3 เมษายน 2556
            ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือ น้องเอย อายุ 3 ขวบ ถูกลืมทิ้งไว้ในรถตู้โรงเรียนทั้งวัน กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราและเสียชีวิตภายหลังเกิดเหตุ 2 อาทิตย์

21 กรกฎาคม 2557

            ด.ช.รณกร นาคพันธ์ หรือ น้องปลื้ม อายุ 4 ขวบ ถูกทิ้งไว้ภายในรถกระบะรับ-ส่งเด็กนักเรียน จนเสียชีวิต

11 พฤษภาคม 2559
            ด.ญ.ปริมประภา ปัจจัยโย หรือ น้องอิงค์ อายุ 3 ขวบ ถูกทิ้งไว้ในรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ซึ่งคนขับรถลืมน้องไว้ในรถที่จอดเสียกลางแดดนานเกินไป จนทำให้เสียชีวิต

เหยื่อถูกลืม.. บทเรียนซ้ำซาก อุทาหรณ์ลืมเด็กในรถ
 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2560 มีการแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์บน เฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ กรณีคนขับรถนักเรียนลืม ด.ช.ชนะชัย ชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ไว้ในรถ จนอาการของหนูน้อยรายนี้โคม่า เนื่องจากเด็กขาดอากาศหายใจนานกว่า 7-8 ชั่วโมง ล่าสุด (2 สิงหาคม 2560) น้องกาก้า ได้เสียชีวิตลงแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ลืมเด็กไว้ในรถแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก..
 
3 เมษายน 2556
            ด.ญ.มนัสนันท์ ทองภู่ หรือ น้องเอย อายุ 3 ขวบ ถูกลืมทิ้งไว้ในรถตู้โรงเรียนทั้งวัน กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราและเสียชีวิตภายหลังเกิดเหตุ 2 อาทิตย์

21 กรกฎาคม 2557

            ด.ช.รณกร นาคพันธ์ หรือ น้องปลื้ม อายุ 4 ขวบ ถูกทิ้งไว้ภายในรถกระบะรับ-ส่งเด็กนักเรียน จนเสียชีวิต

11 พฤษภาคม 2559
            ด.ญ.ปริมประภา ปัจจัยโย หรือ น้องอิงค์ อายุ 3 ขวบ ถูกทิ้งไว้ในรถตู้รับ-ส่งนักเรียน ซึ่งคนขับรถลืมน้องไว้ในรถที่จอดเสียกลางแดดนานเกินไป จนทำให้เสียชีวิต

 

Visitors: 433,733